Pages

หลวงพ่อสดวัดปากน้ำภาษีเจริญ สด จนทสโร พระผู้ปราบมาร

หลวงพ่อสดวัดปากน้ำภาษีเจริญ สด จนทสโร พระผู้ปราบมาร

โครงการตักบาตรพระ 1,000,000 รูป 77 จังหวัด ทุกวัดทั่วไทย

Translation

DMC.tv  ธรรมะ สมาธิ FEED

Tuesday, September 28, 2010

ครอบครัวอบอุ่น

 
 
ประกอบด้วย  ได้พ่อแม่ดี  ได้ลูกดี  ได้สามี – ภรรยาดี
 
สรุปกรรมที่ทำให้ได้ครอบครัวอบอุ่น
 
1. เคยทำบุญร่วมกัน  เคยเกื้อกูลกันมา  อธิษฐานให้มาพบกันอีก
2. บุญที่เคยเลี้ยงดูพ่อแม่อย่างดี  กตัญญูกตเวที

Monday, September 27, 2010

มีปัญญามาก ฉลาด เรียนเก่ง

 




คบบัณฑิต
ชอบทำ<a href=http://www.dmc.tv/pages/meditation/meditation01.html title='สมาธิ' target=_blank>สมาธิ</a>
ชอบทำสมาธิ
 


ส่งเสริมสนับสนุนการศึกษา

 
คบบัณฑิต










ชอบให้วิทยาทาน
มีปัญญามาก
ส่งเสริมสนับสนุนการศึกษา








มีนิสัยใฝ่การศึกษา
ชอบให้วิทยาทาน

มีปัญญามาก
มีนิสัยใฝ่ศึกษา






แผนผังแสดงกรรมที่ส่งผลให้มีปัญญามาก ฉลาด เรียนเก่ง
 

มีปัญญามาก
 

วิบาก
รายละเอียด
1. มีปัญญามาก  ฉลาด  เรียนเก่ง
1. อดีตชาติ + ปัจจุบัน  สนับสนุนส่งเสริมให้คนได้รับการศึกษา
2. อดีตชาติ  มีบุญชอบให้วิทยาทาน
3. อดีตชาติ + ปัจจุบัน  ขวนขวายรักการเรียนการศึกษา  มีนิสัยใฝ่เรียน
4. อดีตชาติ + ปัจจุบัน  ชอบศีกษาธรรมะ  ฟังธรรม  และเผยแผ่ธรรมะ
5. อดีตชาติ  คบบัณฑิต
6. อดีตชาติ  ไม่พูดเท็จ
7. อดีตชาติ + ปัจจุบัน  ชอบทำสมาธิ อดีตชาติ  สั่งสมบุญแล้วอธิษฐานให้มีปัญญา  มีความทรงจำดี
 

สรุปกรรมที่ทำให้มีปัญญามาก  ฉลาด  เรียนเก่ง
 
1. บุญสนับสนุนส่งเสริมการศึกษา
2. มีนิสัยใฝ่การศึกษา
3. บุญชอบให้วิทยาทาน
4. คบบัณฑิต
5. ชอบทำสมาธิ
6. ไม่พูดเท็จ

Sunday, September 26, 2010

อาคาร 100 ปี คุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง

 
 


เป็นอาคารที่สง่างาม ทันสมัยแข็งแรงมั่นคงเพื่อการใช้งานอย่างยาวนาน
 
 
 
หน่วยงานต่างๆ ที่จะเป็นแหล่งหาข้อมูลความรู้ได้อย่างครบวงจรภายในอาคาร 100 ปี
 
*
โรงเรียนพระปริยัติธรรม การศึกษาพระปริยัติธรรมเป็นรากแก้วของการศึกษาให้พระภิกษุ สามเณรได้มีภูมิรู้ในเชิงปริยัติ ควบคู่ไปกับภูมิธรรมในเชิงปฏิบัติ อันจะก่อให้เกิดปฏิเวธ
*
งานผลิตสื่อธรรมะ เพื่อการเผยแผ่พระพุทธศาสนา วิชชาธรรมกาย
*
DMC Channel สื่อสีขาวที่จะนำเรื่องราวความเป็นจริงของชีวิต และความสุขที่แท้จริงอันเกิดจากการปฏิบัติธรรมไปสู่ใจชาวโลก
*
สื่อแอนนิเมชั่น งานสื่อภาพสามมิติที่สวยงามตระการตาซึ่งจะทำให้ผู้ชมเกิดความสนใจและมีความเข้าใจในเรื่องราวของอานิสงส์แห่งบุญและชีวิตในปรโลก
*
สื่อสิ่งพิมพ์ธรรมะและสื่ออื่นๆ อาทิ วารสารอยู่ในบุญ และงานผลิตสื่อธรรมะต่างๆ สื่อประเภท VCD และ Mp3 ซึ่งทุกภาพและทุกตัวอักษรจะก่อเกิดปัญญาบารมีอันสว่างไสวให้เพิ่มพูนขึ้นใน ใจของผู้อ่านที่มีอยู่ทั่วโลก
*
สื่ออินเทอร์เน็ตและวิทยุชุมชน การเผยแผ่ธรรมะผ่านทางเว็บไซต์ต่างๆ อาทิ www.dmc.tv, www.kalyanamitra.org, www.dhammakaya.net ฯลฯ สามารถเข้าถึงผู้คนได้ทั่วทุกมุมโลก ตลอดจนการเผยแผ่ผ่านวิทยุชุมชนที่สามารถเข้าถึงผู้ฟังกลุ่มใหญ่ซึ่งมีอยู่ทั่วประเทศ
*
งานด้านต่างประเทศ อาคาร 100 ปี คุณยายอาจารย์ฯ จะเป็นที่ตั้งของสำนักงานที่จะใช้เป็นศูนย์กลางในการติดต่อสื่อสารกับวัด สาขาและศูนย์สาขาในทวีปต่างๆ ทั่วโลก ได้แก่ อเมริกา ยุโรป โอเชียเนีย เอเชีย และแอฟริกา รวมทั้งหมด 55 แห่ง
*
งานด้านการศึกษาและวิชาการ งานด้านต่างประเทศ อาคาร 100 ปี คุณยายอาจารย์ฯ จะเป็นศูนย์รวมของนักวิชาการด้านพระพุทธศาสนาทั่วโลก ที่จะมาแลกเปลี่ยนความรู้ และเป็นศูนย์รวมงานแปลพระไตรปิฎกและพระคัมภีร์ทุกนิกาย เพื่อนำมาศึกษาค้นคว้าหลักฐานเกี่ยวกับวิชชาธรรมกายและคำสอนของพระสัมมา สัมพุทธเจ้า นอกจากนี้อาคาร 100 ปี คุณยายอาจารย์ฯ ยังใช้เป็นสถานที่ตั้งสำนักงานมหาวิทยาลัยธรรมกายนานาชาติ (DOU) มหาวิทยาลัยที่ส่งเสริมการศึกษาด้านพระพุทธศาสนาให้แพร่หลายให้ชาวโลกทุก เชื้อชาติ ศาสนา ได้มีโอกาสศึกษาธรรมะของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
*
งานอบรมและพัฒนาบุคลากร อาคาร 100 ปี คุณยายอาจารย์ฯ ใช้เป็นศูนย์กลางในการสร้างคนให้เป็นคนดีมีศีลธรรม  พราะงานสร้างคนคือหนึ่งในแนวคิดดั้งเดิมของวัดพระธรรมกาย ซึ่งตลอดเวลากว่า 4 ทศวรรษที่ผ่านมา วัดพระธรรมกายได้อบรมศีลธรรมให้กับผู้คนนับล้านในโครงการต่างๆ อาทิ โครงการอบรมธรรมทายาท, โครงการเด็กดี V-Star ผู้นำฟื้นฟูศีลธรรมโลก, โครงการอบรมศีลธรรมบุคลากรภายนอก(โครงการสู่ความสำเร็จขององค์กร และโครงการองค์กรเปี่ยมสุข)
*
งานสร้างเครือข่ายคนดีทั่วประเทศ อาคาร 100 ปี คุณยายอาจารย์ฯ จะใช้เป็นศูนย์กลางในการสร้างเครือข่ายคนดี โดยผ่านทางโครงการต่างๆ อาทิ โครงการช่วยเหลือพุทธบุตร 266 วัด 4 จังหวัดชายแดนใต้ โครงการตักบาตรพระ 500,000 รูป 76 จังหวัดทุกวัดทั่วไทย โครงการสอบ World-PEC สำหรับบรรพชิตและประชาชนทั่วไป
*
งานอาสาสมัครและบริการ งานอาสาสมัครเป็นงานที่เปิดโอกาสให้กับเยาวชน นิสิต นักศึกษา รวมถึงสาธุชน งานจัดหาเจ้าหน้าที่อาสาสมัครช่วยงานวัด งานฝึกอบรมและพัฒนาอาสาสมัคร งานด้านจราจร งานสิ่งแวดล้อมและงานและงานพัฒนาระบบสาธารณูปการภายในวัด เป็นต้น

Saturday, September 25, 2010

นึกถึงบุญของฉัน

นึกถึงบุญของเราที่ทำผ่านมาแล้วทุกทุกวัน ตลอดเวลา ตอนนี้นึกถึงหลงปู่ทองคำและทำใจใสใสตลอดเวลา

Friday, September 24, 2010

วันครูวิชชาธรรมกาย

23 กย.2553  ทำบุญทอดกฐิน 100 บาท ทำบุญซื้อแผ่นดินเขาแก้วสเด็จ  5 ตารางวา  ละ  125 บาท เป็น 625 บาท ตอนแรกจะทำแค่ 500 บาท  แต่ตัดใจทำ 5 ตารางวา มีเงินเหลือ 50 กว่าบาท

Wednesday, September 15, 2010

พระศรีอริยเมตไตรย์ ตอนที่ 1 เกริ่นนำ

พระศรีอริยเมตไตรย์ 
พระศรีอริยเมตไตรย์สัมมาสัมพุทธเจ้า
ตอนที่ 1 "เกริ่นนำ" เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา  
        สำหรับเรื่องราวของพระศรีอริยเมตไตรย์นั้น ถ้าใครที่เคยได้ยินหรือได้ฟังเรื่องราวของพระองค์มาก่อนหน้านี้ ก็คงพอจะทราบกันมาบ้างแล้วว่า พระองค์ คือ บุคคลที่จะมาบังเกิดเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป และยังถือเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์สุดท้ายของภัทรกัปนี้อีกด้วย ซึ่งเรื่องราวของพระศรีอริยเมตไตรย์ รวมถึงเรื่องราวของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในแต่ละพระองค์นั้น ถือเป็นเรื่องราวที่พวกเราชาวพุทธทุกๆคนควรจะรู้ และจำเป็นต้องรู้ เพื่อที่เราจะได้นำเอาเรื่องราวการสร้างบารมีของพระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์ มาเป็น ทิฏฐานุคติ หรือเอามาเป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิตของพวกเราชาวพุทธรวม ถึงชาวโลกทุกคนด้วย
        เรื่องราวทั้งหมดที่นำมากล่าวนี้ มีบันทึกอยู่ในพระคัมภีร์ทางพระพุทธศาสนา ทั้งที่เป็นเนื้อความจากพระไตรปิฎก, อรรถกถา และในพระคัมภีร์
        พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะมีลักษณะมหาบุรุษเหมือนกัน แต่จะต่างกันตรงขนาด ตามกำลังแห่งพระบารมีที่พระองค์ทรงสั่งสมมา ตั้งแต่พระปัญญาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีมายาวนาน 20-อสงไขย กับอีกหนึ่งแสนมหากัป พระสัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีมายาวนาน 40-อสงไขย กับอีกหนึ่งแสนมหากัป และ พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีมายาวนาน 80-อสงไขย กับอีกหนึ่งแสนมหากัป
        พระศรีอริยเมตไตรย์ ท่านเป็นพระวิริยาธิกพุทธเจ้า ซึ่งใช้เวลาในการสร้างบารมีมากกว่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรา ถึงสี่เท่า เพราะฉะนั้น จะเหมือนกันแค่ลักษณะมหาบุรุษ พระฉัพพรรณรังสีที่เปล่งตามปกติจะต่างกัน ความสว่างจากพระวรกายจะต่างกัน ขึ้นอยู่กับกำลังบารมี การบังเกิดของท่านก็จะแตกต่างกัน แต่บรรลุธรรมเหมือนกัน ความรู้เดียวกัน คือ ความรู้ที่จะดับกิเลส หลุดพ้นจากกิเลสอาสวะ จะเหมือนกันไม่แตกต่างกัน อีกทั้งการเดินทางไปสู่อายตนนิพพานก็จะเหมือนกัน
        ความแตกต่างกันอีกประหนึ่ง คือ โลกในยุคนี้กับโลกในยุคนั้น จะแตกต่างกันทั้ง อากาสโลก ขันธโลก และสัตวโลก กล่าวคือ ดิน อากาศ ฟ้า ต้นไม้ ภูเขา แม่น้ำ จะแตกต่างกัน ความเป็นอยู่ของผู้คน สังคม เศรษฐกิจ การเมือง จะแตกต่างกัน รวมไปถึงปัจจัยสี่ด้วย กระทั่ง รูปสมบัติ ลักษณะของร่างกายของมนุษย์ในยุคนี้กับมนุษย์ในยุคนั้นก็จะแตกต่างกันด้วย
         พระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเราพระองค์นี้ อยู่ในยุคปลายของกัปไขลง แต่พระศรีอริยเมตไตรย์ อยู่ในยุคต้นของกัปไขลง คือ อายุของมนุษย์จากอสงไขยปี ลดลงมาเหลือ แปดหมื่นปี ซึ่งเป็นระดับที่กำลังพอดีที่พระองค์จะทรงบังเกิดขึ้น การสอนธรรมะที่พระองค์ตรัสรู้ก็จะเข้าใจง่าย หากมนุษย์มีอายุมากกว่านั้น การที่จะพูดถึงความไม่เที่ยง การที่จะพูดถึงเรื่องเกิด แก่ เจ็บ ตาย ก็จะเข้าใจได้ยาก
        มนุษย์ที่มาเกิดในยุคของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรา คือ ยุคปลายของกัปไขลงนี้ เป็นประเภทผู้ที่อุปมาเหมือนบุญเท่า กำปั้น บาปเท่ากระบุง กล่าวคือ บุญน้อยบาปเยอะ แต่มนุษย์ที่มาเกิดในยุคของพระศรีอริยเมตไตรย์ คือ ยุคต้นของกัปไขลง จะเป็นผู้ที่อุปมาเหมือนบุญเท่ากระบุง บาปเท่ากำปั้น จะกลับตาลปัตรกัน เพราะฉะนั้น ในเวลาที่บุญ-บาป ปรุงแต่งส่งผล ในแต่ละยุคจึงแตกต่างกัน
        การบังเกิดขึ้นของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแต่ละพระองค์นั้น ถือเป็นการยากอย่างยิ่ง ถ้าจะให้อุปมา...ก็ดั่งกับการงมเข็มในมหาสมุทร กว่าจะพบเจอเข็มที่เล็กแสนเล็กในมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ได้นั้น ช่างยากเย็นแสนเข็ญเพียงใด การบังเกิดขึ้นของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า...กลับยากแสนยากยิ่งขึ้นไปกว่านั้น อีก
 
        สาเหตุที่ยากแสนยากขนาดนี้ เพราะผู้ที่จะมาบังเกิดเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น จะต้องเป็นผู้ที่มีกำลังใจเปี่ยมล้นเหลือคณา มีความปรารถนาดีต่อสรรพสัตว์ทั้งหลายอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เปรียบประดุจบุคคลผู้มีใจที่จะเดินก้าวข้ามห้องที่มีขนาดใหญ่เท่ากับจักรวาล หนทางข้างหน้าล้วนเต็มไปด้วยถ่านเพลิงอันร้อนแรง ผู้ใดมีใจที่จะก้าวข้ามไปถึงสุดห้องให้ได้โดยไม่หวั่นเกรงต่ออุปสรรคขวาก หนามอันใด ผู้นั้นย่อมสามารถเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้
 
        เพราะเหตุแห่งความยากแสนยาก ในการบังเกิดขึ้นของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีมากถึงเพียงนี้ โลกแต่ละยุคแต่ละสมัยที่ผ่านไปยุคแล้วยุคเล่า จนกองกระดูกของสรรพสัตว์ทั้งหลายสูงท่วมเป็นภูเขา ก็ยากที่จะมีผู้ใดได้เกิดมาพบเจอกับองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า (ในแต่ละกัปจะมีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ไม่เกินห้าพระองค์ บางกัปก็ไม่มี บางกัปก็มีเพียงพระองค์เดียว)
        นอกจากนั้น ในช่วงที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าแต่ละพระองค์ เสวยพระชาติเป็นพระโพธิสัตว์ ทุกๆพระองค์จะต้องบำเพ็ญบารมีอย่างยิ่งยวด ชนิดที่เรียกว่าทรงยอมสละทรัพย์ สละอวัยวะ สละเลือดและเนื้อ รวมถึงสละชีวิตเป็นเดิมพัน ในการสร้างบารมีมานับภพนับชาติไม่ถ้วน จนกระทั่งจิตใจมีความมุ่งมั่น และมีความปรารถนาอย่างแรงกล้า ที่จะเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อย่างไม่ถอยหลังกลับ
 
        เมื่อพระโพธิสัตว์พระองค์ใดสร้างบารมีจนมีความมุ่งมั่น และมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อย่างไม่ถอยหลังกลับแล้ว พระโพธิสัตว์พระองค์นั้นจะต้องลงมาบังเกิดร่วมยุคสมัยกับพระสัมมาสัมพุทธ เจ้าพระองค์ใดพระองค์หนึ่งเสียก่อน จากนั้นจะต้องได้มีโอกาสถวายมหาทาน และตั้งความปรารถนาเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ต่อเบื้องพระพักตร์ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในยุคนั้น
 
        เมื่อได้ถวายมหาทานและตั้งความปรารถนาแล้ว พระสัมมาสัมพุทธเจ้าในยุคสมัยนั้น ก็จะทรงสอดข่ายพระญาณเพื่อตรวจดู ด้วยอนาคตังสญาณ ครั้นทรงพิจารณาเห็นว่า “ในอนาคตกาลภายภาคเบื้องหน้า บุคคลผู้นี้จะได้มาตรัสรู้ธรรมเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอีกพระองค์หนึ่ง อย่างแน่นอน”_พระองค์ก็จะทรงพยากรณ์ความเป็น พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พร้อมทั้งตรัสบอกถึง พระนาม พระโคตร พระพุทธบิดา พระพุทธมารดา อัครสาวก-สาวิกา โพธิบัลลังก์ และระยะเวลาที่จะได้มาตรัสรู้ เป็นต้น เพื่อจะได้เป็นเครื่องยืนยันในการตรัสรู้ธรรมในอนาคต และเป็นเสมือนการให้กำลังใจในการบำเพ็ญบารมีของพระโพธิสัตว์พระองค์นั้นต่อ ไป
 
        แม้พระสมณโคดมสัมมา สัมพุทธเจ้า พระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันของเรา ก่อนที่พระองค์จะมาตรัสรู้ พระองค์ก็ทรงได้รับพุทธพยากรณ์จากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ก่อนๆ มาแล้วถึง 24-พระองค์ ซึ่งจะขอยกตัวอย่างในบางช่วงที่พระสมณโคดมสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงได้รับพุทธพยากรณ์จากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ก่อนๆ สักสามพระองค์ ดังนี้
 
        ในพระชาติที่พระองค์ ได้ไปบังเกิดเป็นสุเมธดาบส และได้รับพุทธพยากรณ์จากพระทีปังกรสัมมาสัมพุทธเจ้า เรื่องก็มีอยู่ว่า...ในพระชาตินั้น พระองค์ได้ไปบังเกิดอยู่ในตระกูลพราหมณ์ที่มีฐานะร่ำรวยเป็นอย่างมาก เป็นสุขุมาลชาติ นอกจากจะร่ำรวยแล้ว พระองค์ยังเป็นบุคคลผู้คงแก่เรียน กล่าวคือ เรียนจบศาสตร์ต่างๆหลายแขนง
 
        เมื่อโตเป็นหนุ่ม บิดามารดาของพระองค์ก็ได้ถึงแก่กรรม พระองค์จึงได้รับมรดกทั้งหมดที่บิดาและมารดาของพระองค์ได้สั่งสมมาตลอดเจ็ด ชั่วโคตร ซึ่งถือเป็นจำนวนเงินหลายร้อยโกฏิ หลังจากที่พระองค์ได้รับมรดกมาแล้ว พระองค์ได้มีความคิดว่า “คนในตระกูลของเราสั่งสมทรัพย์ไว้มากมาย แต่เมื่อตายไปแล้ว...ทรัพย์แม้กหาปณะหนึ่งก็เอาติดตัวไปไม่ได้ เราควรกระทำเหตุให้ทรัพย์นี้ติดตัวเราข้ามภพข้ามชาติไปได้”
 
        พร้อมกันนั้น พระองค์ก็ได้เห็นการเกิด การแก่ การเจ็บ และการตาย ว่ามันเป็นทุกข์แสนสาหัส พระองค์จึงมีความปรารถนาที่จะออกไปจากภพ กล่าวคือ เลิกการเวียนเกิดเวียนตายเสียที จากนั้นพระองค์ก็ได้คิดต่ออีกว่า “เมื่อทุกข์มี...สุขก็ต้องมีฉันใด เมื่อมีภพ...ก็ต้องมีทางออกจากภพได้ฉันนั้น”
 
        ดังนั้น พระองค์จึงตัดสินใจสละทรัพย์สมบัติทั้งหมดออกบวชเป็นดาบสหรือฤษี เมื่อออกบวชเป็นดาบสแล้ว พระองค์ก็ตั้งใจบำเพ็ญเพียร จนสามารถบรรลุอภิญญา 5_สมาบัติ 8_และมีความสุขอยู่ในฌานสมาบัติที่พระองค์ได้เข้าถึง และในกาลนั้นเอง...ได้มีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นกับพระองค์
 

สวดมนต์ทุกวัน

ฉันสวดมนต์บูชาพระรัตนตรัยทุกวันและนั่งสมาธิด้วย ใจนิ่งใสสว่าง รู้สึกมีความสุขมาก ๆ อานิสงฆ์
ของการสรรเสริญคุณพระรัตนตรัย ทำให้ฉันมีเสียงทิพย์อันไพเราะ และการเจริญสมาธิภาวนา ทำให้ฉันมีปัญญา

Saturday, September 11, 2010

นายติณบาลยุคปัจจุบัน

http://www.dmc.tv/index.php?module=video&player=2&sname=dmc_guide&file=530910.wmv

วันครูวิชชาธรรมกาย

วันครูวิชชาธรรมกาย
วันพฤหัสบดีที่ 23 กันยายน 2553
“วันมหัศจรรย์ของโลก”

      พิธีอัญเชิญรูปเหมือนทองคำ “พระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ”
รอบมหาธรรมกายเจดีย์ 
ขอเชิญผู้มีบุญทั่วโลกมาร่วมเวียนประทักษิน
อัญเชิญรูปเหมือนทองคำของ
 
พระมงคลเทพมุณี (สด จนฺทสโร)  
 
พระเดชพระคุณพระมงคลเทพมุณี (สด  จนฺทสโร)
ครูผู้ค้นพบวิชาธรรมกาย
 
รอบมหาธรรมกายเจดีย์ ในวันครูวิชาธรรมกาย
ในวันที่  23 กันยายน 2553 
เพื่ออัญเชิญท่านไปประดิษฐาน   ณ บ้านเกิด
มหาวิหารหลวงปู่ จังหวัดสุพรรณบุรี
ในวันเกิดครบรอบ 126 ปีของท่าน 

โดยจะเปิดโอกาสให้ลูกหลานหลวงปู่ทุกคน ได้ร่วมปิดแผ่นทองรูปเหมือนทองคำท่านได้
ในวันอาทิตย์ ที่ 12 และ วันอาทิตย์ที่ 19  กันยายน 2553 นี้
เวลา 16.00 น.  ณ สภาธรรมกายสากล 

สอบถามรายละเอียดได้ที่ : 0-2831-1234
 
 
การค้นพบวิชชาธรรมกาย
 
     วันครูวิชชาธรรมกาย คือวันที่เหล่าศิษยานุศิษย์ ต่างรำลึกถึงวันที่พระเดชพระคุณพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) สละชีวิตเป็นเดิมพัน ในการปฏิบัติธรรมเพื่อค้นหาสัจธรรมของชีวิต หรือธรรมะที่แท้จริงที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรง ค้นพบในวันตรัสรู้ นั่นก็คือ วิชชาธรรมกาย ซึ่งนับนานกว่า 2,000 ปีหลังพุทธปรินิพพาน ที่คำสอนที่แท้จริงในด้านการปฏิบัติเพื่อบรรลุซึ่งมรรคและผลได้เลือนหายไป คงเหลือไว้แต่คำว่า ”ธรรมกาย” ในพระไตรปิฎกเท่านั้นเอง จนในวันเพ็ญ 15 ค่ำ เดือน 10 พระเดชพระคุณพระมงคลเทพมุนีได้สละชีวิตในการนั่งสมาธิจนบรรลุธรรมดังที่ได้ กล่าว แล้วในตอนต้น ดังนั้นในวันเพ็ญ 15 ค่ำ เดือน 10 ของทุกปี ซึ่งปีนี้ตรงกับวันที่ 23 กันยายน 2553 ทางวัดพระธรรมกาย และศิษยานุศิษย์หลวงปู่ทั่วโลกต่างก็ได้จัดให้มีพิธิฉลองวันครูธรรมกายขึ้นเป็นประจำเหมือนอย่างทุกปีที่ผ่านมา
 
ธรรมกาย คือ อะไร?
 
      นับแต่ครั้งที่เจ้าชายสิทธัทถะ ได้ประสูติ ในวันเพ็ญเดือน 6 ใน วันนั้นเรียกว่า วันบังเกิดแห่ง ”รูปกาย หรือ กายเนื้อ” ของ พระโพธิสัตว์ หลังจากนั้นที่โคนไม้พระศรีมหาโพธิ์ พระมาหาสมณะได้ทิ้งชีวิตปฏิบัติธรรมอย่างเด็ดเดี่ยว ใต้โพธิบัลลังก์เพื่อแสวงหาความจริงของชีวิต จนพระองค์ได้ตรัสรู้พระอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในวันเพ็ญเดือน 6 นั่นเอง วันนั้นเป็นวันที่เรียกว่า วันบังเกิดแห่ง “ธรรมกาย หรือ กายแห่งการตัรสรู้ธรรม” ดังนั้น ธรรมกาย คือ กายแห่งการตรัสรู้ธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้เข้าถึง แล้วทำให้ความเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของพระองค์บริบูรณ์ขึ้นมานั่นเอง หลังจากนั้น 45 พรรษาแห่ง การเป็นพระพุทธเจ้า พระองค์ได้เทศนาสั่งสอนให้คนทั้งหลายได้รู้จักธรรมกาย และหนทางปฏิบัติให้เข้าถึงซึ่งธรรมกาย อันเป็นทางเอกสายเดียว และเป็นทางสายกลางที่จะให้มวลมนุษย์ได้เข้าถึงความสุขอันยิ่งใหญ่ หรือ พระนิพพานได้ แต่หลังจากนั้นประมาณ 500 ปีหลังพุทธปรินิพพาน วิธีปฏิบัติเพื่อเข้าถึงธรรมกาย ได้หายสาบสูญไปเหลือเพียงแต่คำว่า ธรรมกาย ให้คนรุ่นหลังได้ตีความไปต่างๆ นานา แต่ไม่รู้ว่าแท้ที่จริงแล้วธรรมกายคืออะไร จนในวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำเดือน 10 ที่พระอุโบสถ วัดโบสถ์(บน) บางคูเวียง พระภิกษุหนุ่มรูปหนึ่ง (สด จนฺทสโร) ได้สละชีวิตเป็นเดิมพัน ขอนั่งสมาธิแม้ตายก็ไม่ลุกจากที่ หากไม่เข้าถึงธรรมที่พระบรมศาสดาได้เข้าถึง ในที่สุดแห่งความพยายามท่านได้เข้าถึงธรรม ณ ที่นั้น และได้เผยแผ่ธรรม ตลอดจนวิธีปฏิบัติ อันเป็นแม่แบบ และ ต้นแบบ ตามแนวทางของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงบัญญัติไว้ อย่างถูกต้องต0ามร่องลอยของพระพุทธศาสนาจนตลอดชีวิตของท่าน

วัดโบสถ์(บน) บางคูเวียง

พระอุโบสถ วัดโบสถ์(บน) บางคูเวียง

ทำไมเราต้องเคารพ และบูชาท่าน?
 
     เนื่องจากพวกเราที่เข้าวัดปฏิบัติธรรม ไม่ว่าจะเป็นพระภิกษุ สามเณร อุบาสก อุบาสิกา ไม่ว่าจะมีความรู้ทางโลก มีความรู้ทางธรรมมากมายเพียงใด ก็คงจะทราบกันดีว่า เมื่อได้ลงมือศึกษาพระไตรปิฎกจะพบว่า การศึกษาจนกระทั่งแตกฉาน แล้วสามารถนำความรู้ที่ได้มาใช้ในภาคปฏิบัตินั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย เพราะว่าคำพูดแต่ละคำที่ปรากฏอยู่ในพระไตรปิฎกนั้น ล้วนเป็นถ้อยคำที่ลึกซึ้ง มีความหมายได้หลายนัย หากเอาความรู้ของเราที่มีอยู่ไปวินิจฉัย แล้วนำมาปฏิบัติ ก็ยากที่จะบังเกิดผลได้ ด้วยเหตุนี้เองการที่ผู้ใดผู้หนึ่ง จะศึกษาธรรมะให้ได้เข้าใจลึกซึ้ง ชัดเจน และสามารถนำไปประพฤติปฏิบัติ ให้เกิดผลได้จริงแล้ว เรื่องสำคัญคือ "ต้องได้ครูดี" เพราะว่าถ้ายังหาครูดีไม่เจอ เมื่ออ่านธรรมะแล้ว ธรรมะนั้นจะผ่านตาแต่ไม่ผ่านใจ แล้วตีความหมายผิดเพี้ยน หรือว่ามีความลึกซึ้งไม่เพียงพอที่จะนำไปปฏิบัติก็ได้ จนในที่สุดอาจจะทำให้ต้องเดือดร้อนตามมาในภายหลัง

      นอกจากจะค้นวิชชาธรรมกายกลับมาได้แล้ว พระเดชพระคุณหลวงปู่ ยังเมตตานำวิชชาธรรมกาย ไปสอนผู้อื่น เพื่อให้มนุษย์ในยุคนั้น ได้รู้จักวิชชาธรรมกายตามท่านอีกด้วย เพราะฉะนั้น การที่พวกเราได้มารู้จักคำว่า "ธรรมกาย" รู้จักวิธีที่จะทำให้ถึงธรรมกายในตัว รู้จักเป้าหมายที่แท้จริงของชีวิต ทั้งๆ ที่ยังปฏิบัติไปไม่ถึง จนทำให้เกิดแรงบันดาลใจ ที่จะทุ่มเทในการปฏิบัติธรรมกันอย่างนี้ พวกเราเป็นหนี้พระคุณของท่านอย่างยิ่งทีเดียว
 
     พระเดชพระคุณหลวงปู่ของเรา เมื่อถึงคราวปฏิบัติธรรม ท่านก็เอาชีวิตเป็นเดิมพัน ไปค้นเอาวิชชาธรรมกายย้อนกลับมาให้พวกเรา... ถึงคราวอบรมลูกศิษย์ลูกหา ท่านก็ได้วางกฎ วางระเบียบ เอาไว้ เป็นขั้น เป็นตอน อย่างละเอียดชัดเจน และเนื่องจากการปฏิบัติธรรม เพื่อให้เข้าถึงธรรมกายในตัวนี้ ไม่ใช่ทำได้ง่าย ท่านจึงได้เคี่ยวเข็ญลูกศิษย์ ขนาบแล้วขนาบอีก อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ใครที่ปฏิบัติได้จริง ก็เท่ากับเป็นพยานให้กับพระพุทธศาสนาไปด้วยในตัว

      ส่วนญาติโยมที่มาทำบุญต่างก็พากันปลื้มใจ ว่าได้ทำบุญถูกเนื้อนาบุญ เพราะบุญที่เกิดขึ้นสามารถเห็นผลได้ทันตาเลยทีเดียว นอกจากท่านจะทุ่มเทอบรมลูกศิษย์ลูกหา ทั้งพระภิกษุ สามเณร อุบาสก อุบาสิกา ภายในประเทศแล้ว ท่านยังทุ่มเทเผยแผ่ไปสู่ต่างประเทศ จนกระทั่งมีชาวต่างชาติเข้ามาบวชเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนา เป็นครั้งแรกของประเทศไทยอีกด้วย


ชาวต่างชาติเข้ามาบวชเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนา เป็นครั้งแรก

     ที่สำคัญ ก่อนจะลาโลกท่านได้สั่งเอาไว้ว่า ชาวโลกที่บารมีแก่กล้า พอที่จะเข้าถึงธรรมกายในตัว ยังมีอยู่อีกมาก แต่ว่าได้กระจัดกระจายไปทั่วโลก ซึ่งถ้าไม่มีใครไปสอนวิชชาธรรมกายให้ เขาก็จะไม่รู้บุญ รู้บาป เดี๋ยวจะตกนรกไปเสียอีก เพราะฉะนั้น แม้ท่านจะละโลกไปแล้ว ก็ขอให้ลูกศิษย์ลูกหาทั้งหลาย ตั้งใจนำวิชชาธรรมกายเผยแผ่ไปทั่วโลกให้ได้

     วัดพระธรรมกาย จึงเป็นผลแห่งการปฏิบัติธรรมและสั่งสอนธรรมของท่าน ในวันคล้ายวันเกิดของท่านเมื่อปี 2551 ซึ่งตรงกับวันที่ 10 ตุลาคม 2551 เหล่าศิษยานุศิษย์ได้พร้อมใจกันที่จะแสดงความกตัญญูรู้คุณท่าน ด้วยการสักการะบูชา และรวบรวมปัจจัยเพือสร้างรูปหล่อคล้ายองค์จริงของท่านแต่มีขาดใหญ่กว่าองค์ จริง ถึง 1.5 เท่าด้วยทองคำบริสุทธิ์หนัก 1 ตัน ดังนั้นในวันครูธรรมกายของปีนี้จึงได้มีพิธีอันเชิญรูปเหมือนทองคำของพระมงคลเทพมุนี รอบมหาธรรมกายเจดีย์ เพื่ออัญเชิญท่านไปประดิษฐาน ณ บ้านเกิด มหาวิหารหลวงปู่ จังหวัดสุพรรณบุรี ในวันเกิดครบรอบ 126 ปีของท่าน
 
ทำไมต้องหล่อท่านด้วยทองคำ?

      เพราะปัจจุบันแม้จะมีนวัตกรรมล้ำยุคมากมาย เพียงไร แต่ก็ยังไม่มีสิ่งใดที่สามารถขจัดความมืดบอด ของอวิชชา และนำพามนุษยชาติทั้งหลายให้หลุดพ้นจากความทุกข์ในสังสารวัฏไปได้ แต่นับเป็นความโชคดีของมวลมนุษยชาติ ที่พระมงคลเทพมุนีได้ค้นพบวิชชาธรรมกาย และนำมาสั่งสอนเผยแผ่ได้อย่างกระจ่างชัดที่สุด อย่างที่ไม่เคยมีบูรพาจารย์ท่านใดในอดีตได้เคยกระทำมาก่อน ด้วยคำสอนที่ว่า "หยุดเป็นตัวสำเร็จ" ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการปฏิบัติธรรม ตั้งแต่เบื้องต้นจนเข้าถึงพระธรรมกายซึ่งเป็นกายตรัสรู้ธรรมของพระสัมมา สัมพุทธเจ้าที่มีอยู่ในตัวของมนุษย์ทุกคน นับเป็นการค้นพบสรณะ ซึ่งเป็นที่พึ่งที่ระลึกอันประเสริฐที่สุดของชาวโลกที่จะนำพามนุษย์ให้หลุด พ้นจากห้วงแห่งอวิชชา สามารถเอาชนะความโลภ ความโกรธ ความหลง และมุ่งตรงสู่เป้าหมาย คือ พระนิพพาน ที่เต็มเปี่ยมไปด้วย ความสุขอันเป็นนิรันดร์ได้อย่างแท้จริง

      ทองคำซึ่งเป็นธาตุอันบริสุทธิ์ และสูงส่ง จึงคู่ควรกับการที่จะนำของที่ทุกคนสมมุติว่าเป็นสิ่งสูงส่งมาหล่อบุคคลอัน เป็นผู้สูงส่งและบริสุทธิ์ ด้วยคุณธรรมและคุณวิเศษอันไม่มีประมาณ เมื่อเหล่าศิษยานุศิษย์และชาวโลก ตลอดจนอนุชนรุ่นหลัง ได้มีโอกาสเดินทาง มากราบสักการะรูปหล่อทองคำ และศึกษาประวัติชีวิตอันงดงามของท่าน จะก่อเกิดแรงบันดาลใจ ในการประพฤติปฏิบัติธรรมตามแบบอย่างของท่าน จนกระทั่งสามารถเป็นกัลยาณมิตรให้แก่ตนเอง และนำพาชาวโลกทั้งหลายให้ได้พบความสุข และเข้าถึงสรณะที่แท้จริง อันจะเป็นทางมาของสันติภาพโลกผ่านสันติสุขภายใน ไปอีกนานนับพันปีได้


 
กำหนดการพิธีกรรม
พิธีบูชาครูผู้ค้นพบวิชชาธรมกาย และ พิธีอัญเชิญรูปหล่อทองคำ
พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย
วันพฤหัสบดีที่ 23 กันยายน พ.ศ.2553
 
ภาคเช้า
 
9.30 น.
-นั่งสมาธิ
 
-พิธีบูชาครูผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย
ภาคบ่าย
 
13.30 น.
-จุดเทียนใจ
 
-นั่งสมาธิ/ อธิษฐานจิตจุดเทียนใจ
 
-ถวายปัจจัย/ ฟังโอวาท
15.30 น.
-เตรียมขบวนเวียนประทักษิณ
ภาคเย็น
 
16.30 น.
-พิธีอัญเชิญรูปหล่อทองคำพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร)
ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย

 
 เวียนประทักษิณ รอบมหาธรรมกายเจดีย์
18.00 น.
-ร่วมกันสวดสรรเสริญคุณพระมงคลเทพมุนี
18.15 น.
-เสร็จพิธี

วันครูวิชชาธรรมกาย”    “วันมหัศจรรย์ของโลก” ที่ทุกคนไม่ควรพลาด

ริ้วขบวนอัญเชิญรูปหล่อทองคำพระมงคลเทพมุนี
 




 
 
 
การแต่งกาย

ใส่ชุดสีขาวมาร่วมงาน


ของที่ระลึกที่สาธุชนจะได้รับมอบในวันงาน
1. รูปภาพพระมงคลเทพมุนี
2. เหรียญที่ระลึก

 
 
 

     
Tag : นรก  สมาธิ  อุบาสิกา  พระมงคลเทพมุนี  พระโพธิสัตว์  พุทธเจ้า  วัดพระธรรมกาย  พรรษา  พระศรีมหาโพธิ์  บุญ